You know ?

      พอดีผมไปเจอบทความหนึ่งใน Pantip เขียนโดยคุณ  คนปังฮา อ่านแล้วเคียร์ดี ก็เลยอยากจะเอามาแชร์สำหรับคนที่ไม่เข้าใจได้อ่านกันครับ forward port คืออะไร ? หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง  ทำถนนในหมู่บ้านไว้  65,000 สาย สาย 1 ถึง 65,000 (port) ถนนแต่ละสาย เป็นถนนเดี่ยว ไม่มีซอย เริ่มจากป้อมยามหน้าหมู่บ้านทั้งหมด สุดปลายถนนแต่ละสาย จะมีบ้านได้ 1 หลัง (เท่านั้น) บ้านแต่ละหลัง มีเลขที่ไม่ซ้ำกัน (IP Address) บ้านขนาดใหญ่ บางหลัง (1ip address)  ต้องใช้ถนนหลายสาย (หลาย port) ปลายถนนบางสาย ว่าง ยังไม่มีการสร้างบ้าน (ยังไม่มี IP ใดไปรออยู่)  ยามหน้าหมู่บ้าน (router) มีไวท์บอร์ด บันทึกรายละเอียดเลขที่บ้านและถนนไว้  (ตาราง NAT) สร้างบ้านเสร็จ ต้องบอกยาม ให้บันทึกลงไวท์บอร์ด ว่าอยู่ปลายถนนหมายเลขเท่าไร (ทำ port forward  แจ้ง IP ไหน รออยู่ Port ไหน)  บ้านที่ใช้ถนนหลายสาย   จะต้องบันทึกให้ครบทุกสาย (port forward ครบทุก port ) มีจดหมาย ส่งจากนอกบ้าน (request) มาลงที่ตู้ยาม ต้องการติดต่อบ้านหลังหนึ่ง  แต่จดหมายจ่าหน้าเป็น ชื่อหมู่บ้าน (Wan IP  หรือ External IP) ตามด้วยหมายเลขถนนในหมู่บ้าน (port)

เมื่อผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 รายได้ใบอนุญาตจากกสทช.แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการขอใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ 2100MHz และขอ MNC หรือ Mobile Network Code ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของ Mobile Network Operator (MNO) ในแต่ละประเทศ เป็นตัวเลขระหว่าง 00-99 MVNO เช่น i-mobile3GX และ TruemoveH ไม่มี Mobile Network Code เป็นของตัวเอง ต้องใช้ code เดียวกับเจ้าของเครือข่ายคือ TOT และ CAT โดย Mobile Network Code จะปรากฏให้เห็นเวลาสแกนหาเครือข่าย เป็นเลข 2 หลักที่เขียนต่อท้าย 520 (520 คือ Mobile Country Code ของประเทศไทย) ถ้ามือถือหรือซิมของเรารู้จัก Mobile Network Code นั้น มันจะไม่แสดงผลเป็น 520-xx แต่จะแสดงเป็นชื่อเครือข่ายแทน เช่น 520-18 จะแสดงชื่อเป็น dtac Mobile Network Code ของผู้ให้บริการมือถือไทยมีดังนี้ 00=CAT 3G850MHz 01=AIS 02=CAT CDMA 15=TOT3G 18=dtac 23=DPC GSM1800 99=Truemove เมื่อกสทช.ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้เอกชน 3 บริษัท จึงถือว่ามี MNO เกิดใหม่ 3 ราย แต่ละรายจะมี Mobile Network Code เป็นของตัวเอง และถึงแม้ว่า 3 บริษัทนี้จะเป็นบริษัทลูกของ AIS dtac Truemove