E-Commerce ในไทยนี่สายโหด ยุคมืดของระบบตะกร้าซื้อขาย
ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงชินกับการไปตลาดหรือซื้อของตามแหล่งซื้อขาย เคยสังเกตุนิสัยคนไทยไหมครับ เวลาขายของพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะติดราคาไว้อยู่แล้ว บางร้านนี่ติดใหญ่เท่าฝาบ้าน แต่ก็ยังมีลูกค้าถามเพื่อยืนยันเสมอ อันนี้ 199 เหรอคะ ? ตามด้วย ลดได้อีกไหมคะ? ขอลดอีกนะค่ะ จนเคยชินเป็นนิสัย พอมาอยู่ในโลกการซื้อขายออนไลน์ เกิดความไม่ชินใจที่จะสั่ง ไม่อุ่นใจเท่ากับได้พูดคุย ต้องพูดคุยถามสักนิดก่อนซื้อเสมอ ผมว่าด้วยเหตุผลนี้หลายๆร้านจึงไม่คิดจะเปิดหน้าเว็บ หรือถ้าทำแล้วก็แทบโยนตระกร้าทิ้งก็มี เพราะด้วยนิสัยไทยๆที่ยังยึดอยู่กับการซื้อแบบเดิมๆของพี่ไทยเรานี่เอง ถ้าสังเกตุหลายๆเว็บใหญ่ๆ เริ่มปรับตัวโดยใช้ AI หรือ ระบบแแชทกับเจ้าหน้าที่ร้าน คอยคุยกับลูกค้าเพื่อให้เกิดความอุ่นใจก่อนที่ลูกค้าจะสั่งซื้อล่ะ
ทำไมผมถึงบอกว่า ยุคมืดของระบบตะกร้าซื้อขาย ด้วยเหตุผลวัฒนธรรมการซื้อขายของคนไทยยังยึดติดจากที่กล่าวมา บวกกับชอบความสะดวกสะบายอย่ามากกก ดังนั้นระบบตระกร้าขายหน้าเว็บจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการซื้อขายซะแล้ว ระยะหลังๆจะเห็นได้ว่า ผู้ขายเปิดขายสินค้าผ่าน Social Network กันเยอะเลย ทั้ง IG,Facebook,Twitter ซึ่งแทบไม่มีเว็บทั้งนั้น เป็นตัวที่บอกได้ดีเลยว่า ผู้ซื้อสะดวกที่จะสั่งซื้อผ่าน Line หรือ Chat มากกว่า (หรือ Message Facebook) หรือแม้แต่บางเว็บก็เริ่มปรับตัวอีกเช่นกัน เริ่มทำปุ่ม Chat ให้เด่น ๆ ทำ ID Line ให้เด่น ๆ บนหน้าเว็บมากกว่าเดิม
ดังนั้นถึงไม่น่าแปลกใจ ธุรกิจค้าขายผ่าน Social Network จึงมาแรงกว่า ระบบตระกร้าหน้าเว็บซะแล้ว ผมคิดว่าเหตุผลหลักๆคือ
1. ปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ห่างเกินไป ลูกค้าสามารถทัก Line หรือ Chat สอบถามได้ตลอดเวลา ดีกว่าที่ต้องคอยอีเมลล์หรือกรอกฟอร์มหน้าเว็บถาม
2. สามารถดู Feedback หรือ Review การสั่งซื้อคนอื่นได้เลย บางร้านโพสปั๊บ ถ้าใต้โพสมีโพสต่อว่าเยอะๆนี่ ขอบายแล้ว ไม่ซื้อกับร้านนี้ล่ะ
3. สะดวกรวดเร็วในการชำระเงิน พอสั่งปั๊บ กด Copy เลขบัญชีมา Paste ใน App Mobile Banking เมื่อโอนเสร็จ กด Save รูปโอนเงิน กดส่งเข้า Line, FB ให้พ่อค้าแม่ค้าได้ทันที ไม่ต้องไปแจ้งโอนเงินหน้าเว็บให้ปวดหัว
4. สั่งซื้อหน้าเว็บ ต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะซื้อได้ ลูกค้าบางคนนั่งกรอก CAPTCHA กันสามสี่รอบไม่ผ่านสักทีก็หมดอารมณ์ซื้อล่ะ และบางคนมือถือไม่ได้เร็ว คอมไม่ได้ใช้ เลยเลือกช่องทางแชทเท่านั้น สะดวกสำหรับลูกค้าที่สุด
5. สินค้าที่เหมือนกัน ฝั่ง Social Network อาจขายได้ถูกกว่าหน้าเว็บ เนื่องจากไม่มีต้นทุนการทำเว็บไซท์
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด เอาเป็นว่าผมสรุปว่า แค่ระบบตระกร้าอาจไม่พอใน trand การซื้อขายตอนนี้ล่ะครับ เรามาถึงยุคที่ร้านค้าต้องเริ่มปรับตัวแข่งขันกันอย่างหนัก เพราะการแข่งขันสูงขึ้นมาก อย่าลืมว่าด้วยอิทธิฤทธิ์ของ Social Network ทุกคนสามารถเปิดร้านขายได้ด้วยไม่ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งที่ทำให้ร้านคุณอยู่ได้คือการปรับตัว ต้องรักษา Feedback จากลูกค้า ต้องเพิ่มกลยุทธ์การขายให้มากกว่าเดิม แต่ราคาก็ต้องถูกลงด้วย เพิ่มความสะดวกสะบายเข้าไป และอย่าทิ้งสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมความเคยชินดั้งเดิม บางอย่างสิ่งที่ผู้ขายคิดว่าง่าย สะดวกสำหรับตัวเราเอง อาจไม่ได้สะดวกสำหรับลูกค้าเสมอไปก็ได้ อย่ามโนไปเอง
มีสาระ
ReplyDeleteคนเขียนหล่อด้วย :)
Delete